มหาโควินทสูตร (ตอนที่ 2 พุทธคุณ ๘ ประการ)

บุคคลจะเป็นอุบาสกหรืออุบาสิกาก็ตาม ผู้ถึงพระรัตนตรัยอันประกอบด้วยคุณอันอุดมอย่างนี้ ชื่อว่าจะเป็นผู้บังเกิดในนรกเป็นต้น ย่อมไม่มี อนึ่งพ้นจากการบังเกิดในอบายแล้ว ยังจะเกิดขึ้นในเทวโลกได้เสวยมหาสมบัติ https://dmc.tv/a6779

บทความธรรมะ Dhamma Articles > ธรรมะเพื่อประชาชน
[ 9 มิ.ย. 2553 ] - [ ผู้อ่าน : 18273 ]
ม ห า โ ค วิ น ท สู ต ร
( ต อ น ที่  ๒  พุ ท ธ คุ ณ ๘ ป ร ะ ก า ร )



 
     บุคคลจะเป็นอุบาสกหรืออุบาสิกาก็ตาม ผู้ถึงพระรัตนตรัยอันประกอบด้วยคุณอันอุดมอย่างนี้ ชื่อว่าจะเป็นผู้บังเกิดในนรกเป็นต้น ย่อมไม่มี อนึ่งพ้นจากการบังเกิดในอบายแล้ว ยังจะเกิดขึ้นในเทวโลกได้เสวยมหาสมบัติ

     บุญ คือ สิ่งที่อยู่เบื้องหลัง ที่ทำให้เกิดความสำเร็จในทุกๆ เรื่อง ทำให้เป็นผู้ที่สมบูรณ์ด้วยโลกียสมบัติและอริยสมบัติ ถ้ามีบุญมากเราจะสร้างบารมีได้สะดวกสบาย และบรรลุมรรคผลนิพพานได้อย่างง่ายดาย ด้วยอานุภาพแห่งบุญที่ได้สั่งสมไว้ดีแล้ว การสั่งสมบุญจึงเป็นกิจที่เราทั้งหลายต้องกระทำกันทุกวัน ทุกเวลาและทุกสถานที่

    มีวาระบาลีที่ปรากฏใน อรรถกถาขุททกนิกาย ชาดก ว่า
 
    " บุคคลจะเป็นอุบาสกหรืออุบาสิกาก็ตาม ผู้ถึงพระรัตนตรัยอันประกอบด้วยคุณอันอุดมอย่างนี้ ชื่อว่าจะเป็นผู้บังเกิดในนรกเป็นต้นย่อมไม่มี อนึ่งพ้นจากการบังเกิดในอบายแล้ว ยังจะเกิดขึ้นในเทวโลกได้เสวยมหาสมบัติ "

    พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นที่พึ่งที่ระลึกของมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย การบังเกิดขึ้นของพระองค์ เป็นสิ่งที่มวลสรรพสัตว์ทั้งหลายต่างรอคอยด้วยใจที่จดจ่อ เพื่อจะได้มีโอกาสฟังพระสัทธรรม อันเป็นเครื่องนำออกจากทุกข์ เข้าถึงบรมสุขอันเป็นอมตะ เป็นความสุขที่อิสระไม่มีทุกข์เจือปนแม้แต่น้อย

    เมื่อคราวที่แล้ว หลวงพ่อได้นำเรื่องราวในมหาโควินทสูตร มากล่าวเอาไว้ในเบื้องต้น เป็นเรื่องราวการสร้างบารมีของปัญจสิขเทพบุตร ที่ไปเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ และได้กล่าวถึงมหาเทวสันนิบาต ซึ่งเป็นการประชุมใหญ่ในแต่ละครั้งของเหล่าเทวดาในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ปัญจสิขเทพบุตรได้ทูลเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นบนสวรรค์ชั้นนั้นถวายพระบรมศาสดาว่า "ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เทวดาทั้งหลายในชั้นดาวดึงส์ เมื่อประชุมกันในวันธรรมสวนะ  ก็จะทบทวนถึงบุญที่ตนเองได้สร้าง"

    * ใครที่ได้สร้างบุญในพระพุทธศาสนา เป็นสาวกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กายทิพย์ของเทพเหล่านั้นจะสว่างไสวมากกว่าเทพองค์อื่นๆ สังเกตได้จากรัศมีที่เกิดขึ้นด้วยอำนาจบุญ ท้าวสักกะจอมเทพที่ดูแลปกครองเทพทั้งหลายในดาวดึงส์จะเสด็จไปอนุโมทนาด้วยคาถาว่า 

    "โอหนอ ผู้เจริญทั้งหลาย พวกเราเหล่าเทพชั้นดาวดึงส์ย่อมบันเทิงไหว้พระตถาคต เคารพพระธรรม พวกเทพใหม่ที่มีรัศมี มียศ ได้ประพฤติพรหมจรรย์ในศาสนาของพระสุคต เมื่อมาในที่นี้เทพเหล่านั้นจะรุ่งเรืองล่วงเทพเหล่าอื่นโดยรัศมี โดยยศ โดยอายุ การเป็นสาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นมหานิสงส์ใหญ่ ทำให้บรรลุคุณวิเศษที่ละเอียดประณีตในสวรรค์ชั้นนี้ เกินกว่าเทพผู้ไม่ได้สร้างบุญไว้ในพระพุทธศาสนา"
 
     พวกเทพชั้นดาวดึงส์พร้อมทั้งท้าวสักกะ เห็นข้อนี้แล้วจึงปีติยินดี เกิดความเลื่อมใสในพระบรมศาสดามาก แม้จะอยู่บนสวรรค์ต่างแสวงหาบุญ ด้วยการพากันไหว้พระตถาคตและพระธรรม พระพุทธเจ้าข้า เพราะฉะนั้นพวกเทพชั้นดาวดึงส์จึงชื่นใจ บันเทิง เกิดปีติโสมนัสโดยประมาณยิ่งว่า กายทิพย์ของพวกเราย่อมบริบูรณ์ด้วยรัศมีที่รุ่งโรจน์โชติช่วง"
 
     หลังจากท้าวสักกะจอมเทพทรงทราบความเลื่อมใสอันยิ่งของทวยเทพชั้นดาวดึงส์แล้ว ได้ตรัสถามว่า "ท่านผู้นิรทุกข์ พวกท่านอยากจะฟังพระคุณ ๘ อย่าง ของพระผู้มีพระภาคเจ้าหรือไม่" ด้วยความเลื่อมใสที่มีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เหล่าเทพจึงพากันทูลรับทันที ท้าวสักกะจอมเทพตรัสว่า "พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นผู้ที่สมบูรณ์ด้วยวิชชาและจรณะ พระคุณของพระองค์ไม่มีประมาณ ถ้ากล่าวโดยย่อมี ๘ อย่าง พวกท่านทั้งหลายโปรดจดจำ และยังใจให้เลื่อมใสในพระพุทธคุณเถิด จะได้เป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่ท่านทั้งหลาย" จากนั้นท้าวสักกะจอมเทพ ได้กล่าวถึงพระคุณของพระผู้มีพระภาคเจ้าดังนี้

    (๑) พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงปฏิบัติเพื่อความเกื้อกูล เพื่อความสุข เพื่ออนุเคราะห์แก่ชาวโลก เพื่อประโยชน์ เพื่อความเกื้อกูล เพื่อความสุขแก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เราเป็นท้าวสักกะ ไม่เคยเห็นศาสดาองค์ใดในโลกนี้ที่เต็มเปี่ยมด้วยพระมหากรุณา ปฏิบัติเพื่อความเกื้อกูล เพื่อความสุข เพื่ออนุเคราะห์แก่ชาวโลก เพื่อประโยชน์ เพื่อความเกื้อกูล เพื่อความสุขแก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ดังพระผู้มีพระภาคของเรา

    (๒) พระธรรมของพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ตรัสไว้ดีแล้ว เป็นธรรมที่พึงเห็นเอง ไม่ประกอบด้วยกาล เรียกให้มาดูได้ น้อมเข้ามาในตนได้ ผู้รู้พึงรู้ได้เฉพาะตน เราไม่พิจารณาเห็นศาสดา ผู้แสดงธรรมที่น้อมมาใช้ได้เช่นนี้ ทั้งอดีตและปัจจุบัน

    (๓) พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงบัญญัติไว้แล้วอย่างดีว่า  นี้เป็นกุศล นี้เป็นอกุศล นี้เป็นโทษ นี้ไม่มีโทษ นี้พึงเสพ นี้ไม่พึงเสพ นี้เลว นี้ประณีต นี้ดำ นี้ขาว มีส่วนคล้ายกัน เราไม่พิจารณาเห็นศาสดาอื่นที่บัญญัติธรรมที่เป็นกุศล อกุศล มีโทษ ไม่มีโทษ พึงเสพ ไม่พึงเสพ เลว ประณีต ดำ ขาว มีส่วนคล้ายกันอย่างนี้ เหมือนพระบรมศาสดา ไม่ว่าจะในอดีต และไม่ว่าในปัจจุบัน

    (๔) พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงบัญญัติข้อปฏิบัติสำหรับไปถึงพระนิพพานแก่สาวกทั้งหลาย ทั้งพระนิพพาน ทั้งข้อปฏิบัติ ต่างกลมกลืนกันเป็นอย่างดี เหมือนน้ำจากแม่น้ำคงคากับน้ำจากแม่น้ำยมุนา ย่อมกลมกลืนกันเป็นอย่างดี เรายังไม่พิจารณาเห็นศาสดาอื่นที่บัญญัติข้อปฏิบัติสำหรับไปถึงพระนิพพานได้อย่างพระผู้มีพระภาคเจ้า

    (๕) พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเป็นผู้สิ้นอาสวะอยู่จบพรหมจรรย์ที่ให้ถึงพระนิพพาน พระองค์ไม่ทรงติดด้วยข้อปฏิบัติและวัตรนั้น ทรงเป็นผู้ที่สันโดษ ไม่คลุกคลีด้วยหมู่ ยินดีความสงัดวิเวก เราไม่พิจารณาเห็นศาสดาที่ตามประกอบความเป็นผู้ยินดี ในความเป็นผู้เดียวเช่นนี้ ผู้ถึงพร้อมด้วยองค์แม้นี้ ไม่ว่าจะเป็นส่วนอดีตและปัจจุบัน นอกจากพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น

    (๖) แม้มีลาภ ชื่อเสียงและความสำเร็จอย่างยิ่ง พระองค์ก็ไม่ทรงติดลาภสักการะ ดำรงตนปกติ เราไม่พิจารณาเห็นศาสดาที่ปราศจากความเมาบริโภคอาหารอยู่เช่นนี้  พระองค์ถึงพร้อมด้วยองค์แม้นี้ ไม่ว่าจะเป็นส่วนอดีตและปัจจุบัน

    (๗) พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเป็นผู้มีปกติตรัสอย่างไร ก็มีปกติทำอย่างนั้น ทรงมีปกติทำอย่างไร ก็มีปกติตรัสอย่างนั้น เราไม่พิจารณาเห็นศาสดาที่ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรมเช่นนี้  ผู้ประกอบพร้อมด้วยองค์แม้นี้ ไม่ว่าจะเป็นส่วนอดีตและปัจจุบัน ยกเว้นแต่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น

    (๘) พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงข้ามความสงสัยได้แล้ว ปราศจากความเคลือบแคลง สิ้นสุดความดำริ เกี่ยวกับอัชฌาสัย เกี่ยวกับข้อปฏิบัติ อันเป็นส่วนเบื้องต้นแห่งพรหมจรรย์

    เมื่อปัญจสิขเทพบุตรกราบทูลมาถึงตรงนี้ จึงทูลต่อไปว่า "ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เมื่อท้าวสักกะตรัสถึงพระคุณทั้ง ๘ ประการของพระองค์แล้ว เหล่าทวยเทพพากันชื่นอกชื่นใจ บันเทิง เกิดปีติโสมนัส มีความรัก ความศรัทธาในพระองค์ยิ่งขึ้น หลังจากนั้น เหล่าทวยเทพต่างพากันกล่าวสรรเสริญว่า ขอให้พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ทรงมีพระอาพาธน้อย ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง พึงทรงดำรงยั่งยืนนานเถิด เพื่อความสุขแก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย" เมื่อกราบทูลถึงตรงนี้ จะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ขอให้ติดตามในตอนต่อไป

    จะเห็นได้ว่า การบังเกิดขึ้นของพระบรมศาสดา เป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย พระพุทธองค์สมบูรณ์ด้วยพระพุทธคุณ ๘ ประการ การยังใจให้เลื่อมใสในพระองค์ จะก่อให้เกิดมหากุศลงอกงามขึ้นในใจไปทุกภพทุกชาติ ดังนั้นจงภูมิใจเถิดที่เราทุกคนได้เป็นสาวกของพระพุทธเจ้า ให้ตั้งใจปฏิบัติตามคำสอนของพระองค์ เราจะได้ประสบความสุขความสำเร็จสมปรารถนาไปทุกภพทุกชาติตราบกระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรม 
 
พระธรรมเทศนาโดย: พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย)
 
* มก. มหาโควินทสูตร เล่ม ๑๔ หน้า ๑๓
 
 

http://goo.gl/FFYQN


พิมพ์บทความนี้



บทความอื่นๆ ในหมวด

      มงคลที่ ๑๕ บำเพ็ญทาน - อานิสงส์ทำบุญทอดกฐิน
      หลุดพ้นจากสังสารวัฏ
      โสฬสญาณ
      เบื้องต้นเบื้องปลายไม่ปรากฏ
      พระอรหันต์รู้ได้ยาก
      ความวิเศษสุดของพระพุทธศาสนา
      พระอรหันต์มีจริง
      พระอริยเจ้า
      ผลแห่งการชวนคนมารู้จักพระรัตนตรัย
      คนดีที่โลกต้องการ
      นักสร้างบารมีพันธุ์อาชาไนย
      เวสารัชชธรรม ๔
      ต้นแบบแห่งความดี




   ค้นหา บทความธรรม    

  ฝันในฝันวิทยา
  สารพันธรรมะ
  ปกิณกธรรม
  ผลการปฏิบัติธรรม
  โครงการฟื้นฟูศีลธรรมโลก
  ธรรมะบันเทิง
  ข่าว
  ข่าวประชาสัมพันธ์
  ข่าวบุญฝากประกาศ
  DMC NEWS
  ข่าวรอบโลก
  กิจกรรมเว็บ dmc.tv
  Scoop - Review DMC
  เรื่องเด่นทันเหตุการณ์
  Review รายการ DMC
  หนังสือธรรมะ
  ธรรมะเพื่อประชาชน
  ที่นี่มีคำตอบ
  หลวงพ่อตอบปัญหา
  อยู่ในบุญ
  สุขภาพนักสร้างบารมี
  นิทานชาดก
  CaseStudy กฎแห่งกรรม
  กฎแห่งกรรม
  เรื่องราวชีวิต
  เหลือเชื่อแต่จริง
  อุทาหรณ์สอนใจ
  ฮอตฮิต...ติดดาว
  วิบากกรรม...ทำให้ทุกข์
  บุญเกื้อหนุน
  ปรโลกนิวส์
  ธรรมะและสมาธิ
  พุทธประวัติ
  สมาธิ
  ผลการปฏิบัติธรรมนานาชาติ
  ทศชาติชาดก
  พุทธประวัติและวันสำคัญ
  บทสวดมนต์
  ศัพท์ธรรมะ ภาษาอังกฤษ
  มหาปูชนียาจารย์
  อานุภาพมหาปูชนียาจารย์
  ประวัติ
  กิจกรรม
  ธุดงค์สถาปนาเส้นทางมหาปูชนียาจารย์
  About DMC
  เกี่ยวกับ DMC
  DMC GUIDE
  มือถือ Mobile
  คู่มือเว็บ www.dmc.tv
  มาวัดพระธรรมกาย
   ค้นหา บทความธรรม    

ธรรมะที่เกี่ยวข้อง - Related